อี 85 มาแล้วถูกกว่า 10 บาท + น้ำมันสูตรใหม่ได้เห็นแน่/ 'พูนภิรมย์' ดันเต็มที่ / ค่ายรถต่อรองให้ลดภาษี
กระทรวงพลังงานประกาศเร่งเดินหน้าผลิตน้ำมัน "อี85" รับมือวิกฤติน้ำมันที่แพง คาดต้นปีหน้าได้เห็นรถยนต์เติมอี 85 แน่ หลังหลายค่ายต่างยืนยันความพร้อมนำเข้ามาก่อนในปีแรก แนะรัฐต้องลดภาษีเพื่อจูงใจ ขณะที่"พูนภิรมย์"ดันเต็มที่บินดูงานที่บราซิล 8-15 มิ.ย.นี้ ด้านบางจากพร้อม ผลิตอี 85 ป้อนได้ทันที
ศาสตราจารย์ (ศ.) ดร.พิสุทธ์ ชลากรกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ถึงมาตรการรับมือวิกฤติราคาน้ำมันว่า ขณะนี้กระทรวงพลังงานกำลังหามาตรการและแนวทางในการประหยัดพลังงาน เพื่อรับมือกับราคาน้ำมันที่จะมีการปรับสูงขึ้นไป โดยเฉพาะราคาน้ำมันเบนซินที่จะพุ่งไปกว่า 40 บาทต่อลิตร ซึ่งอาจจะเป็นมาตรการเพิ่มเติมหลังจากที่ได้มีการออก 11 มาตรการประหยัดพลังงานเพื่อประชาชนไปแล้ว
สำหรับมาตรการใหม่นี้คงจะไม่มีการนำมาตรการบังคับมาใช้ แต่จะเป็นในเรื่องการขอความสมัครใจ และขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน อย่างกรณีของการขอความร่วมมือกับสมาคมป้ายและโฆษณาขนาดใหญ่ให้ปิดไฟฟ้าหลังเวลา 22.00 น.ไปแล้ว เนื่องจากที่ผ่านมาการปิดไฟฟ้าป้ายโฆษณาไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร เมื่อสถานการณ์ราคาน้ำมันเป็นเช่นนี้ ทางกระทรวงพลังงานจะไปขอความร่วมมือกับสมาคมป้ายและโฆษณาอีกครั้ง ซึ่งหากดำเนินการได้จะช่วยให้ประเทศลดการใช้น้ำมันและก๊าซธรรมชาติผลิตไฟฟ้าได้มาก
++ดันใช้อี85แก้วิกฤติน้ำมัน
นอกจากนี้ พล.ท.หญิงพูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เห็นว่าการจะแก้ไขวิกฤติราคาน้ำมันได้ จำเป็นต้องมุ่งส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์แทนการใช้น้ำมันเบนซิน ที่จะผลักดันไปสู่การใช้แก๊สโซฮอล์ ที่มีเอทานอลผสมอยู่ในน้ำมันเบนซิน 85% หรืออี 85 ให้เร็วขึ้น
จากเดิมที่เคยกำหนดระยะเวลาว่าจะดำเนินการนำมาใช้ในปี 2555 แต่ด้วยสถานการณ์ราคาน้ำมันเป็นเช่นนี้ ทำให้มีการเร่งผลักดันเร็วกว่ากำหนด โดยประมาณต้นปี 2552อย่างช้า คาดว่าจะมีรถยนต์ที่ใช้อี 85 เข้ามาวิ่งในประเทศได้ เนื่องจากที่ผ่านมาได้มีการหารือกับบรรดาค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นแล้วว่าจะผลิตรถยนต์ที่สามารถใช้น้ำมันเบนซินไปจนถึงแก๊สโซฮอล์ อี85 ได้ หรือประเภทรถยนต์เอฟเอฟวี ในขณะที่ค่ายรถยนต์ยุโรปจะมีการหารืออย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้ ว่าจะมีความชัดเจนมากน้อยเพียงใด
++เตรียมหารือคลังลดภาษี
ศ.ดร.พิสุทธ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ หลังจากที่ได้รับการตอบรับจากบรรดาค่ายรถยนต์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางกระทรวงพลังงานจะไปหารือกับทางกระทรวงการคลัง ว่าจะสามารถลดภาษีสรรพสามิตของรถยนต์ลงมาได้เหมือนกับรถยนต์ที่ใช้อี 20 ที่มีราคาถูกกว่ารถยนต์ทั่วไป 5% ซึ่งหากกระทรวงการคลังตอบรับ ก็จะทำให้รถยนต์ที่ใช้อี 85 มีราคาถูกลง และเป็นสิ่งจูงใจให้ประชาชนจะหันไปใช้รถยนต์ประเภทนี้แทน ด้วยราคาน้ำมันที่ถูกกว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์อี 20 ที่ปัจจุบันมีส่วนต่างจากราคาน้ำมันเบนซิน ออกเทน 95 ถึง 6 บาทต่อลิตร เมื่อมีเอทานอลผสมในน้ำมันเบนซินสูงถึง 85 % ยอมทำให้ส่วนต่างของราคายิ่งสูงออกไปด้วย
++พูนภิรมย์บินดูงานบราซิล
โดยระหว่างวันที่ 8-15 มิถุนายน 2551 นี้ ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จะเดินทางไปดูงานการใช้พลังงานทดแทนที่ประเทศบราซิล เนื่องจากเป็นประเทศต้นๆที่มีการใช้อี 85 กับรถยนต์ทุกประเภทได้ ซึ่งการไปครั้งนี้จะไปศึกษาประสบการณ์และบทเรียนของบราซิลในการนำพลังงานทดแทนมาใช้ และจะมีส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจที่จะให้มีการผลักดันการใช้อี 85 เร็วขึ้น เพราะการส่งเสริมให้มีการใช้แก๊สโซฮอล์ อี 20 ที่เพิ่งเริ่มต้นมาเมื่อต้นปีนี้ ถือว่าไม่เพียงพอกับสถานการณ์ราคาน้ำมันที่เป็นอยู่เวลานี้แล้ว
++แจงค่ายรถตอบรับขอรัฐอุดหนุน
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้มีการหารือร่วมกับหน่วยงานภายใน เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะผลักดันให้มีการใช้รถยนต์ อี85 ออกมาให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะการจัดทำรายละเอียดเพื่อไปหารือกับกระทรวงการคลังในการลดภาษีศุลกากร และภาษีสรรพสามิต
เนื่องจากเวลานี้ได้รับการตอบรับเบื้องต้นจากบริษัทรถยนต์จากค่ายยุโรป 3 บริษัท ได้แก่ วอลโว่ จีเอ็ม และฟอร์ด ว่าพร้อมที่จะสนับสนุนนโยบายของกระทรวงพลังงานที่จะนำเข้ารถยนต์อี 85 เข้ามาทำตลาดในช่วงปีแรก เนื่องจากยังไม่สามารถทำการผลิตรถยนต์อี 85 ได้ภายในประเทศ แต่ทางรัฐบาลจะต้องให้การสนับสนุนด้านภาษีให้ โดยต้องลดอากรนำเข้าจากเดิมที่เคยเสีย 80% ลงมาเหลือ 60% และภาษีสรรพสามิต จากเดิมที่ต้องจ่าย 30% ปรับลดลงมาเหลือ 20% เพื่อให้รถยนต์ที่นำเข้ามามีราคาใกล้เคียงกับรถยนต์ที่ใช้อี 20 หรือแพงกว่าเพียงเล็กน้อย
และในปีที่สองเมื่อบริษัทรถยนต์สามารถที่จะปรับขบวนการผลิตรถยนต์ได้แล้ว แต่ต้องมีการสั่งเข้าเครื่องยนต์ ในส่วนนี้ขอให้มีการลดภาษีการนำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์ให้บ้าง เป็นต้นเพื่อนำไปสู่การผลิตรถยนต์อี 85 ในประเทศทั้งคันต่อไป
++ราคาขายถูกกว่า10 บาทต่อลิตร
นอกจากนี้ ยังได้สอบถามความเห็นของบริษัทน้ำมันว่าจะมีรายใดบางพร้อมที่จะจำหน่ายน้ำมันอี 85 ซึ่งทางบริษัทปตท. จำกัด (มหาชน) (บมจ.) และ บมจ. บางจากปิโตรเลียม พร้อมที่จะจัดสถานีบริการอี 85 ให้ ส่วนราคาจำหน่ายอี 85 นั้น เนื่องจากมีส่วนผสมของเอทานอลอยู่ถึง 85 % คาดว่าจะมีส่วนต่างกับราคาของน้ำมันเบนซิน ออกเทน 95 ไม่ต่ำกว่า 10 บาทต่อลิตร
ส่วนการออกสเปกน้ำมันอี 85 ได้มีการสั่งการให้กรมธุรกิจพลังงานไปเตรียมความพร้อมในการออกมาตรฐานคุณภาพน้ำมันอี 85 แล้ว ซึ่งในส่วนนี้จะใช้ระยะเวลาไม่นาน เพราะได้มีการศึกษาเตรียมการไว้ก่อนหน้านี้แล้ว หากรัฐบาลส่งเสริมการใช้อี 85 ออกมาเมื่อใดก็สามารถมีสเปกอี 85 ออกมารองรับได้ทันที
"การจะนำอี 85 มาใช้จะเร็วหรือช้านั้น ขั้นตอนส่วนใหญ่จะอยู่ที่การเจรจากับกระทรวงการคลังว่าจะสามารถลดภาษีศุลกากรกับภาษีสรรพสามิตให้ได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่สามารถลดได้ จำเป็นต้องหาแนวทางอื่นๆ ว่าจะสามารถช่วยชดเชยบริษัทรถยนต์ได้อย่างไรบ้าง ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานต้องการให้อี 85 เกิดขึ้นเร็ว เพราะเวลานี้ราคาน้ำมันแพงมาก ซึ่งหากเจรจากับกระทรวงการคลังได้เร็วเท่าใด ก็จะช่วยให้ อี 85 เกิดได้เร็วขึ้นภายในสิ้นปีนี้"แหล่งข่าวกล่าว
ที่สำคัญการมีอี 85 ออกมาจำหน่ายนั้น จะเป็นการช่วยลดปริมาณการนำเข้าน้ำมันของประเทศลดลงได้อย่างมาก และจะช่วยให้การใช้เอทานอลที่ผลิตได้เองภายในประเทศถูกนำมาใช้มากขึ้น จากปัจจุบันที่มีเพียง 8 แสนลิตรต่อวัน ทั้งที่มีกำลังการผลิตได้ถึง 1.5 ล้านลิตรต่อวัน และเพิ่มขึ้นอีกในระยะอันใกล้นี้ ทำให้ปริมาณที่เหลือต้องส่งออกไปต่างประเทศ หากส่งเสริมการใช้อี 85 ได้ ก็จะช่วยให้ผู้ประกอบการเอทานอลสามารถอยู่ในธุรกิจอย่างยั่งยืนได้
++บางจากพร้อมผลิตอี85ป้อน
นายยอดพจน์ วงศ์รักมิตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านการตลาด บมจ.บางจากปิโตรเลียม เปิดเผยว่า สำหรับน้ำมันอี 85 นั้น เวลานี้ทางบมจ.บางจาก สามารถผลิตได้แล้วตามมาตรฐานของยุโรป และมีสถานีบริการรองรับที่จะสามารถนำมาจำหน่ายได้ทันที แต่เวลานี้ต้องรอดูนโยบายของกระทรวงพลังงานว่าจะออกมาอย่างไร ซึ่งหากเร่งได้เร็วเมื่อใดจะเป็นผลดีกับประเทศ เพราะจะช่วยลดภาระการนำเข้าน้ำมันและแบ่งเบาภาระของประชาชนได้ทางหนึ่ง ซึ่งบมจ.บางจากพร้อมที่จะเป็นบริษัทนำร่องในการผลิตอี 85 เพียงแต่รอสเปกของกรมธุรกิจพลังงานประกาศออกมา ก็จะสามารถปรับปรุงกระบวนการผลิตได้ไม่มีปัญหา และพร้อมที่จะผลิตให้กับบมจ.ปตท.หรือบริษัทอื่นๆ หากมีความต้องการนำอี 85 ไปจำหน่าย
ศ.ดร.พิสุทธ์ กล่าวอีกครั้งว่า สำหรับการที่จะรับมือวิกฤติราคาน้ำมันในช่วงนี้ ทางออกที่ดีต้องพึ่งการใช้ก๊าซเอ็นจีวีเป็นหลัก เนื่องจากมีราคาถูกเพียง 8.50 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งผลจากราคาน้ำมันแพงเวลานี้ทำให้ประชาชนหันมาใช้ก๊าซเอ็นจีวีเพิ่มมากขึ้น จะเห็นได้จากเป้าหมายที่ตั้งเป้าไว้ว่าภายในปีนี้จะมีรถยนต์เอ็นจีวีสะสมอยู่ 88,265 คัน แต่สิ้นเดือนเมษายนที่ผ่านมามียอดติดตั้งแล้ว 72,950 คัน ซึ่งระยะเวลาที่เหลือว่าจะเพิ่มขึ้นไปอยู่ในระดับ 120,000 คัน
โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ให้บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) ไปเร่งดำเนินการให้รถแท็กซี่ที่ใช้ก๊าซแอลพีจีจำนวน 50,000 เปลี่ยนมาใช้ก๊าซเอ็นจีวีให้ได้ภายในสิ้นปีนี้ หากดำเนินการได้ทั้งหมดยอดรถยนต์ที่ใช้ก๊าซเอ็นจีวีจะเพิ่มสูงกว่า 120,000 คันอย่างแน่นอน แต่หากไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ คาดว่าอย่างน้อยจะมีรถแท็กซี่ที่จะมาเปลี่ยนเป็นก๊าซเอ็นจีวีภายในสิ้นปีนี้ไม่ต่ำกว่า 20,000 คัน
อย่างไรก็ตามทางกระทรวงมีความมั่นใจว่าการแก้ปัญหาการขาดแคลนก๊าซเอ็นจีวีและสถานีบริการเอ็นจีวีจะหมดไปภายในเดือนกรกฎาคมนี้ เพราะบมจ.ปตท.ได้ยืนยันมาแล้วว่าจะสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จ โดยสิ้นเดือนมิถุนายน 2551 นี้ จะมีปั๊มเอ็นจีวี 234 แห่ง จากปัจจุบัน 177 แห่ง และสิ้นปีจะเพิ่มเป็น 355 แห่ง พร้อมมีรถขนส่งก๊าซเอ็นจีวีเพิ่มขึ้นเป็น 526 คัน จากปัจจุบัน 389 คัน
++ค่ายรถแนะให้ลดภาษีเพื่อจูงใจ
นางฉันทนา วัฒนารมย์ รองประธานกรรมการฝ่ายการตลาด บจก. วอลโว่คาร์(ประเทศไทย) กล่าวว่า หากกระทรวงพลังงานจะผลักดันการใช้อี 85 ให้เร็วขึ้น วอลโว่ก็พร้อมนำรถมาเปิดตัวรองรับได้ทันที เนื่องจากปัจจุบัน วอลโว่เป็นผู้นำในการผลิตรถพลังงานไบโอเอธานอล และเปิดจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้อี 85 แล้วในยุโรป ซึ่งได้การตอบรับเป็นอย่างดี สำหรับประเทศไทย วอลโว่คาร์ได้นำรถวอลโว่ ซี 30 ที่สามารถใช้แก๊สโซฮอล์ อี 85 มาจัดแสดงโชว์ให้เห็นเทคโนโลยีพลังงานทางเลือกใหม่ให้กับผู้สนใจได้ชมตั้งแต่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 29 ที่ไบเทค บางนาเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
"การที่ภาครัฐมีแนวคิดใช้อี 85 และจะผลักดันให้เป็นนโยบายที่ชัดเจนอย่างเป็นรูปธรรม จะเป็นการสนับสนุนให้ผู้ผลิตรถยนต์หันมาพัฒนารถยนต์ประเภทนี้มากขึ้น ที่ช่วยลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ และใช้เชื้อเพลิงที่ผลิตได้ในประเทศแทน อย่างไรก็ตาม การผลักดันใช้อี 85 จะต้องดำเนินการอย่างครบวงจร ตั้งแต่การจัดสรรปลูกพืชพลังงาน วัตถุดิบ รวมถึงการผลิตเอทานอลให้เพียงพอกับความต้องการ นอกจากนี้ ควรจะมีมาตรการด้านภาษีสรรพสามิต เพื่อจูงใจให้ผู้สนใจซื้อรถอี 85 เหมือนอย่างที่ผลักดันให้คนซื้อรถ อี 20 ด้วยการลดภาษีจาก 30% เป็น 25%"
ด้านนายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร กรรมการบริหาร บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย)จำกัด (บจก.) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมา ทางบริษัทรถยนต์ได้มีการหารือกับกระทรวงพลังงานถึงเรื่องความพร้อมในการใช้แก๊สโซออล์ อี 85ซึ่งทางผู้ประกอบการเห็นว่า การก้าวจากอี 20 เป็น อี 85 จะต้องใช้เวลาในการพัฒนารถยนต์ไม่น้อยกว่า 4 ปี หรือเริ่มใช้จริงประมาณปี 2554-2555 แต่หากภาครัฐจะเร่งกำหนดการให้เร็วขึ้นอีก คงต้องมีการหารือกันอีกหลายครั้ง
อย่างไรก็ดี หากกระทรวงพลังงานต้องการเร่งกำหนดการให้เร็วขึ้น โดยการนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูป (CBU)ที่ใช้อี 85 ได้มาจำหน่ายแทนการประกอบขึ้นภายในประเทศ (CKD) ก็จะมียอดจำหน่ายไม่มากนักแค่ 1,000 คัน ซึ่งไม่คุ้มกับการเปิดสถานีบริการน้ำมันอี 85 แต่หากให้เวลาบริษัทรถยนต์พัฒนารถยนต์รุ่นใหม่และเริ่มผลิตขึ้นภายในประเทศแล้ว จะทำให้มียอดขายสูงมากคุ้มกับการลงทุนเปิดสถานีบริการน้ำมัน เหมือนอย่างที่ไทยประสบความสำเร็จในการผลิตรถยนต์อี 20 ออกมาเมื่อ1 มกราคม 2551 และได้การตอบรับจากผู้ใช้รถอย่างดีมาก
"ภาครัฐจำเป็นต้องใช้มาตรการลดภาษีสรรพสามิตเพื่อจูงใจผู้ซื้อด้วย แต่จะเป็นอัตราเท่าไรนั้น ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ในตอนนี้ "
Wednesday, May 21, 2008
ดันใช้อี85แก้วิกฤติน้ำมัน ถูกกว่า 10 บาท ค่ายรถต่อรองให้ลดภาษี ต้นปี 2552อย่างช้า รถยนต์ที่ใช้อี 85 เข้ามาวิ่งในประเทศได้
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment